อำเภอ สังขละบุรี ถือเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีที่มีมนต์เสน่ห์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเอกลักษณ์ความเป็นมอญ อันเกิดจากพื้นที่นี้มีชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญย้ายหลักแหล่งมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ครั้งอดีตถ่ายทอดออกมาเป็นวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี อาหารการกิน สถาปัตยกรรมและพุทธสถาน ทำให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมายในพื้นที่ ซึ่งมีมนต์เสน่ห์ชวนให้น่าค้นหาและสัมผัส
วันนี้เราจึงขอยกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอสังขละบุรีในระดับไฮไลท์ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งมาฝากกัน ส่วนจะมีที่ไหนกันบ้าง นักท่องเที่ยวพันธุ์แท้อย่างคุณไม่ควรพลาดต้องตามไปดู
1.วัดวังก์วิเวการาม

วัดวังก์วิเวการาม หรือชาวบ้านในพื้นที่เรียกขานกันว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ เนื่องมาจากวัดนี้เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ได้ร่วมกับชาวบ้านจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน วัดวังก์วิเวการามที่เห็นอยู่ในรูปเป็นวัดใหม่ ตัววัดเดิมนั้นจมอยู่ใต้น้ำในส่วนของเมืองบาดาล ขณะที่ตัววัดใหม่นี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บนฝั่งไม่ไกลจากตัววัดเดิมมากนัก
วัดวังก์วิเวการามมีศิลปะแบบพม่า มีความโดดเด่นอยู่ที่เจดีย์พุทธคยาจำลองสีทองอร่ามตั้งตระหง่านสูงโยชน์ มีความสวยงามจนดึงดูดทุกสายตาของผู้มาสักการะกราบไหว้และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่ากับเมล็ดข้าวสาร ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการบูชากราบไหว้กันอีกด้วย
ที่ตั้ง : หมู่ 2 ทางหลวงชนบท กาญจนบุรี 3024 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
โทรศัพท์ : 034-595-422
เว็บไซต์ : thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/วัดวังก์วิเวการาม-279
2.เมืองบาดาล (วัดใต้น้ำ)
เมืองบาดาล (วัดใต้น้ำ) หรือก็คือวัดวังก์วิเวการามแห่งแรกที่หลวงพ่ออุตตมะได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้น โดยเหตุแห่งการต้องย้ายวัดเกิดจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์หรือเขื่อนเขาแหลมขึ้น ซึ่งทำให้บริเวณวัดนี้ถูกน้ำท่วมขังทำให้ต้องทำการย้ายวัดไปสร้างใหม่ โดยพื้นที่ของวัดเดิมนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ เป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำ 3 สาย อัน ได้แก่ แม่น้ำรันตี แม่น้ำซองกาเลียและแม่น้ำบีคลี่
อย่างไรก็ตาม แม้วัดเดิมจะต้องจมอยู่ใต้น้ำ แต่ก็กลับกลายเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยวและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเวียนมาเที่ยวที่เมืองบาดาลหรือวัดใต้น้ำนี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำในเขื่อนจะลดระดับลงอย่างมากจนถึงพื้นดินเดิม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือไปขึ้นฝั่งตรงโบสถ์ เที่ยวชมและถ่ายรูปบริเวณตัววัด ถ้าเป็นช่วงน้ำเต็มเขื่อน อาจจะมองเห็นแค่ยอดหอระฆังเท่านั้น
ปัจจุบันวัดใต้น้ำหลงเหลือไว้เพียงแค่ตัวโบสถ์ กำแพงด้านนอกตัวโบสถ์และหอระฆัง ขณะที่ภายในโบสถ์ยังพอมีภาพจิตรกรรมฝาผนังให้เห็นอยู่บ้าง ถือเป็นเสน่ห์น่าหลงไหลชวนให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปสัมผัสด้วยตาตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
ที่ตั้ง : ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
วิธีการเข้าชมและอัตราค่าเข้าชม : การเข้าชมเมืองบาดาล (วัดใต้น้ำ) นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือได้บริเวณสะพานมอญ โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 600 บาท ติดต่อแพลุงเณร โทร. 089-221-2330, 034-595-360 ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00–18.00 น.
3.สะพานมอญ
สะพานมอญ หรือในชื่อทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ ถือเป็นสะพานไม้มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย เป็นสะพานยาวอันดับ 2 ของโลก คือ มีความยาวกว่า 850 เมตร เป็นสะพานที่สร้างข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ในอำเภอสังขละบุรี โดยหลวงพ่ออุตตมะและชุมชนชาวมอญ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2529 จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2556 ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก พัดพาซุงขนาดใหญ่ไหลมาชนกับเสาสะพานจนเกิดหักกลาง แต่ด้วยความช่วยเหลือของทหารช่างกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ได้ร่วมกับชาวบ้านดำเนินการก่อสร้างใหม่จนแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้อีกครั้งเมื่อ 18 ตุลาคม 2557 ทำให้สะพานกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองสังขละบุรีแห่งนี้และเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง
ที่ตั้ง : หมู่ 2 ซอยสะพานไม้ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
4.ด่านเจดีย์สามองค์
ด่านเจดีย์สามองค์ หรือแต่เดิมเรียกกันว่า หินสามกอง เนื่องจากเป็นเพียงกองหิน 3 กองที่วางซ้อนกันอยู่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2432 พระศรีสุวรรณคีรี จะได้นำชาวบ้านจัดสร้างพระเจดีย์ขึ้นตรงจุดนี้ 3 องค์ สูงองค์ละ 6 เมตร แต่ละองค์ตั้งห่างกัน 6 เมตร โดยจากการขุดค้นศึกษาของกรมศิลปากรทำให้พบว่า ฐานรากของพระเจดีย์นั้น ได้พบฐานเจดีย์องค์เดิมอยู่ด้านใต้เจดีย์องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีอายุอยู่ในราวสมัยอยุธยาทำให้สันนิษฐานได้ว่าแต่เดิมก็มีพระเจดีย์ตั้งอยู่ตรงจุดนี้อยู่แล้ว ก่อนจะพังทลายไป ชาวบ้านจึงได้นำหินมาวางกองเรียงไว้ในตำแหน่งเดิมเพื่อเป็นการบูชา ก่อนจะได้รับการบูรณะจัดสร้างใหม่ในเวลาต่อมา
ด่านเจดีย์สามองค์ในอดีตเป็นช่องทางสำหรับเคลื่อนทัพของทั้งไทยและพม่า แต่ปัจจุบันบริเวณนี้เป็นจุดเชื่อมต่อเขตแดนที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เดินทางมาเยี่ยมชมและข้ามพรมแดนไปเที่ยวในฝั่งพม่าเป็นจำนวนมาก
ที่ตั้ง : สุดทางหลวงหมายเลข 323 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม : ฟรี
โทรศัพท์ : 034-590-105
เว็บไซต์ : thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/ด่านเจดีย์สามองค์–282
ทั้ง 4 ที่นี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวระดับไฮไลท์ของอำเภอสังขละบุรี ดินแดนชาวมอญในพื้นที่เขตแดนติดต่อกับประเทศพม่า ซึ่งทุก ๆ ที่ล้วนมีกลิ่นอาย มนต์เสน่ห์ชวนเดินทางไปท่องเที่ยวและสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองเป็นอย่างยิ่ง แต่ระวัง! ถ้าได้ไปเยือนแล้ว ระวังจะติดใจ ต้องไปซ้ำอีกหลาย ๆ รอบ